วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

มหาวิหารโนตเตรอดาม

Notre Dame de Paris

มหาวิหารโนตเตรอดาม/อาเมียง (ภาษาฝรั่งเศส: Cathédrale Notre-Dame d'Amiens; ภาษาอังกฤษ: Amiens Cathedral) มีชื่อเต็มว่า “Cathédrale Notre-Dame d'Amiens” หรือในภาษาอังกฤษว่า “Cathedral of Our Lady of Amiens” เป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส มีเนื้อที่ภายในกว้างใหญ่ถึง 200,000 ตารางเมตร หลังคาโค้งกอธิคสูง 42.30 เมตรซึ่งเป็นหลังคากอธิคที่สูงที่สุดในฝรั่งเศส ตัวมหาวิหารตั้งอยู่ที่เมืองอาเมียงซึ่งเป็นเมืองสำคัญของพิคาร์ดี (Picardy) ในหุบเขาซอม (Somme) อยู่เหนือจากปารีสประมาณ 100 กิโลเมตร

มหาวิหารโนตเตรอดามแห่งกรุงปารีส เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความสวยและโดดเด่นมากแห่งหนึ่ง มหาวิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ Childbert I ราว ค.ศ. 528 โดยสร้างทับซากโบสถ์แซงต์ เอเตียง ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ ในสมัยที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ และได้มีการดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อย ๆ เริ่มตั้งแต่สมัยของพระสังฆราช (บิชอป) มอริซ เดอ ซุยล์ลี เป็นต้นมา แล้วเสร็จในปี 1888 รวมระยะเวลาการก่อสร้างนานถึง 182 ปี มหาวิหาร Notre Dame เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สมบูรณ์แบบ ทั้งใหญ่โตมโหฬาร และเริ่ดหรูอลังการด้วยงานศิลปะตกแต่ง ด้านหน้ามหาวิหารมีลานกว้าง ประตูทางเข้าเป็นประตูโค้ง 3 บาน แต่ละบานสูง 20 ฟุต โดยประตูทั้งสามมีชื่อเรียกกันเรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่ ประตูบริสุทธิ์ ประตูพิพากษาครั้งสุดท้าย และประตูนักบุญแอนน์ เหนือประตูทั้งสามคือรูปปั้นกษัตริย์ 28 องค์ของชาวยิวโบราณ
มหาวิหาร Notre Dame เป็น สถานที่ที่มีความสำคัญหลายประการ เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสวมมงกุฏ ให้แก่นโปเลียน และทางด้านขวาของตัวมหาวิหารก็เป็นพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ จัดแสดงเครื่องใช้ของพระสังฆราชองค์ก่อน ๆ และยังมีปฏิมากรรมอีกหลายชิ้นที่ช่วยส่งเสริมให้มหาวิหารแห่งนี้งดงามยิ่งขึ้นไปอีก อันได้แก่ รูปปั้นพระแม่มารี และรูปปั้นของพระเจ้าหลุยศ์ที่ 13 และ 14 แห่งฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่เลื่องชื่อของ Notre Dame อีกอย่าง นั่นก็คือ หน้าต่างกุหลาบ ซึ่งก็คือกระจกสีที่ทำเลียนแบบกลีบชั้นต่าง ๆ ของกุหลาบ และทำเป็นรูปพระเยซู แม่พระ และนักบุญต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้งานสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิค ที่เน้นความโปร่งใส ยิ่งดูเบาบางและสว่างไสวยิ่งขึ้นด้วย

มหาวิหารนอเทรอดาม ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คำว่า Notre Dame ในชื่อวัดนั้นแปลว่า "Our Lady" ปัจจุบันมหาวิหารก็ยังใช้เป็นวัดของนิกายโรมันคาทอลิกและเป็นที่นั่งของอัครบาทหลวงแห่งปารีส มหาวิหารนอเทรอดามถือกันว่าเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอธิคแบบฝรั่งเศส วัดนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์โดยเออแชน วีโยเล-เลอ-ดุก (Eugène Viollet-le-Duc) ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส

การก่อสร้างเป็นแบบกอธิคเป็นมหาวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้ และการก่อสร้างก็ทำต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอธิค ปฏิมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ (Naturalism) ทำให้แตกต่างจาก ศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น

นอเทรอดามเป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งก่อสร้างแรกที่ใช้ "กำแพงค้ำยันแบบปีกนก" (flying buttress) ตามแบบเดิมไม่ได้บ่งถึงกำแพงค้ำยันรอบมหาวิหาร "Choir" หรือ รอบทางเดินกลางของตัววัด (nave) เมื่อเริ่มสร้างกำแพงวัดสูงขึ้นกำแพงก็เริ่มร้าวเพราะน้ำหนักของสิ่งก่อสร้าง เพราะสถาปนิกสมัยกอธิคจะเน้นการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สูง บาง และโปร่ง เมื่อสร้างสูงขึ้นไปกำแพงก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและความกดดันของกำแพงและหลังคาได้ทำให้กำแพงโก่งออกไปและร้าว สถาปนิกจึงใช้วิธีแก้ด้วยการเติม "กำแพงค้ำยัน" ที่กางออกไปคล้ายปีกนกด้านนอกตัววัด เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุนหรือค้ำกำแพงตัววัดเอาไว้ เมื่อทำไปแล้วนอกจากจะมีประโยชน์ทางการใช้สอยแล้วยังกลายเป็นเครื่องตกแต่งที่ทำให้สิ่งก่อสร้างความสวยงามขึ้น ฉนั้นวิธีแก้ปัญหานี้จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนหนึ่งของวัดที่สร้างแบบกอธิคไปในตัว

ราวปี ค.ศ. 1790 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศสวัดก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประติมากรรมและศิลปะทางศาสนาถูกทำลายไปมาก มหาวิหารได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนมีสภาพเหมือนก่อนหน้าที่ถูกทำลาย

ไม่มีความคิดเห็น: